งานผลิตกระเป๋าหนัง และวิธีดูแลรักษากระเป๋าหนังแต่ละประเภท

พารู้จักงานผลิตกระเป๋าหนัง และวิธีดูแลรักษากระเป๋าหนังแต่ละประเภทให้ใช้ได้ไปนาน

     กระเป๋าหนังที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ คนโดยทั่วไปมักจะไม่เห็นข้อแตกต่างกันสักเท่าไรนัก สำหรับคนทั่วไปคือการแยกประเภทกระเป๋าหนังจากลวดลายของกระเป๋าที่จะทำให้พอทราบได้ว่า นี่คือหนังจากวัว หนังจากจระเข้ หนังจากนกกระจอกเทศ แต่ส่วนน้อยจะรู้ว่ากระเป๋าหนังนี้มีกี่ประเภท มีหนังประเภทใดบ้าง และผ่านกระบวนการมาได้อย่างไร วันนี้ แอบโซลูท คอร์ป ขอมานำเสนอประเภทของกระเป๋าให้ท่านได้ทราบเพื่อเป็นความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับใช้เลือกกระเป๋าหนังใช้กัน!

     การแบ่งประเภทของกระเป๋าหนัง ถ้าแบ่งตามลักษณะของงานผลิตกระเป๋าหนังแล้ว จะแบ่งได้ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ กระเป๋าหนังแท้ และกระเป๋าหนังเทียม

     กระเป๋าหนังแท้ คือ กระเป๋าหนังที่ทำจากหนังสัตว์แท้ ๆ 100% ไม่ว่าจะเป็นหนังสัตว์ จากหนังวัว หนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ หนังปลากระเบน หนังเสือ หนังแกะ หรือหนังสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย กระเป๋าหนังแท้ ยังสามารถแบ่งได้ ตามลักษณะของหนังที่นำมาเป็นกระเป๋าได้อีก 2 ประเภท ด้วยกัน ได้แก่ กระเป๋าหนังดิบ และกระเป๋าหนังฟอก

  • กระเป๋าหนังดิบ เป็นกระเป๋าที่ทำจากวัตถุดิบเป็นหนังสัตว์ธรรมชาติ โดยนำหนังมาผ่านกระบวนการทำความสะอาด ตากแดดให้แห้ง อาจจะใช้กระบวนการความร้อนในการอบ การย่างอ่อน ๆ บ้าง ตามภูมิปัญญาของแต่ละที่ ซึ่งหนังดิบนี้แทบจะไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ในกระบวนการทำ ลักษณะของหนังประเภทนี้จะมีความตึงผิวหนังสูง ไม่ค่อยยืดหยุ่น และบางครั้งจะมีพื้นผิวที่หยาบเล็กน้อย อาจจะมีขนสัตว์ติดหลงเหลือมาอยู่บ้าง ซึ่งหนังประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของการนำหนังมาใช้ทำสิ่งของมากมายในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เอาหนังประเภทนี้มาตัดเย็บเป็นที่เก็บอาหาร ที่หมักโยเกิร์ต เครืองแต่งกาย กระเป๋า สายเข็มขัด เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้ หนังแท้ดิบแบบนี้เรามักจะเห็นเพียงการนำมาทำเป็นเครื่องดนตรี กลองหนัง เท่านั้น
  • กระเป๋าหนังฟอก เป็นกระเป๋าที่นำหนังสัตว์ชนิดต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการฟอกหนัง เพื่อเปลี่ยนสภาพหนังดิบที่มีโอกาสเน่าเปื่อยให้เป็นหนังสำเร็จที่คงตัวได้ดีกว่าเดิม ไม่เน่า ไม่เปื่อย มีความทนต่อสภาพอากาศ และน้ำร้อน และนำไปตัดเย็บเป็นกระเป๋าหนังแต่ละแบบต่อไป


การฟอกหนัง มีกรรมวิธีการฟอกที่ใช้กันอยู่ 2 วิธี ได้แก่

1. การฟอกโครม (Chrome Tanning) การฟอกโครม เป็นการฟอกหนังที่ใช้สารเคมีจำพวก เป็นสารเคมีที่เรียกว่า โครม (Chrome) ลงไป เช่น เกลือของโครเมียม (โครมิก – Chromic) ซึ่งสารนี้จะทำให้หนังมีสภาพเป็นไฟเบอร์ เมื่อนำไปตากแห้งแล้วจะทำให้หนังแข็งมีสีเขียว และนำหนังนี้ไปล้างก็จะได้หนังฟอกตามต้องการ
2. การฟอกฝาด (Vegetable Tanning) เป็นการฟอกหนังจากสารสกัดประเภทแทนนิน ซึ่งเป็นสารสกัดจากเปลือกไม้ยูคาลิปตัส ควีบราโคและอื่น ๆ มาใส่ในถังฟอก แล้วนำไปล้างกรดที่เกิดขึ้นจากการฟอกออกที่เราเรียกว่าล้างฝาด ตากให้แห้ง จากนั้นก็จะได้หนังฟอกฝาดตามที่ต้องการ
หนังที่ได้จากการฟอกฝาดนี้จะมีน้ำหนักมากกว่าหนังที่ได้จากการฟอกโครม โดยมากมักจะนำไปผลิตเป็นเข็มขัด เป็นพื้นรองเท้า และการฟอกฝาดจะมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าการฟอกโครม หลังจากได้หนังฟอกโครม และหนังฟอกฝาดแล้วทั้ง 2 นี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการย้อมสี รีดน้ำ ทำให้แห้ง และเจียนผิวด้วยเครื่องตัดแต่ง ก่อนที่จะนำเข้าสู่กระบวนการนำไปใช้ออกแบบ ตัดเย็บเป็นกระเป๋าต่อไป

หลังจากผ่านกระบวนการฟอกแล้ว ก็จะสามารถแบ่งประเภทของหนังที่ใช้ทำกระเป๋าได้อีก 5 ประเภท

1. หนังฟูลเกรน Full Grain เป็นหนังชั้นบนสุดของผิวหนังสัตว์ ที่จะแสดงลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์ประเภทนั้นออกมาได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดของบรรดาหนังที่ใช้ทำกระเป๋ากันเลยทีเดียว และหนังฟูลเกรนที่ได้ผ่านการฟอกมานั้นจะทำให้มีรอยตำหนิ แต่รอยตำหนิบนหนังประเภทนี้นำมาให้คุณค่าทางการตลาดได้ เพราะจะทำให้กระเป๋าที่ทำจากหนังฟูลเกรนนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละใบ แตกต่างกัน และทำให้เป็นกระเป๋าหนังใบเดียวของโลก
2. หนังท็อป เกรน Top Grain เป็นหนังที่อยู่ถัดจากหนังชั้น Full Grain มี เป็นหนังที่ยังพอเห็นลวดลายธรรมชาติจากสัตว์อยู่บ้าง นำมาเข้าสู่กระบวนฟอก การขัด การตัดแต่ง ลบรอยตำหนิต่าง ๆ แล้วนำมาออกแบบตัดเย็บเป็นกระเป๋าต่อไป
3. หนังสปริท Split เป็นส่วนของหนังชั้นกลางที่ถูกนำไป Coating ผ่านการเคลือบชั้นผิวหนังเพื่อรักษาสภาพหนัง เป็นหนังที่มีความเรียบ มัน งาม มักนิยมนำมาชั้นตัดเย็บเป็นกระเป๋า และเฟอร์นิเจอร์หนัง แต่จะมีความอ่อนแอ และเปราะบางมากกว่า full grain และ top grain ต้องหมั่นคอยดูแลรักษาเป็นอย่างดี
4. หนังไลนิง lining ผิวหนังชั้นสุดท้ายไม่มีลวดลายธรรมชาติปรากฏอยู่เลย และมีความเปราะบางมาก มักนิยมนำมาใช้เป็นตัวซับในกระเป๋า
5. หนังบอนเด็ก Bonded เป็นเศษหนังแท้ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนิยมนำมาแปรสภาพให้เป็นหนังม่วนหรือหนังแผ่น แล้วเข้าสู่กระบวนการ coating อีกที

สำหรับผู้ที่สนใจในกระเป๋าหนัง และต้องการใช้กระเป๋าไปได้ระยะยาวนาน วันนี้ แอบโซลูท คอร์ป มีวิธีการดูแลรักษากระเป๋าอย่างง่าย ๆ มาฝากกัน!

1. เมื่อคุณได้กระเป๋าหนังที่คุณชอบใจมาแล้ว ก่อนนำไปใช้งานควรทำการฉีดสเปรย์เคลือบกระเป๋า หรือทาน้ำยารักษาหนังกระเป๋าบาง ๆ สักครั้งก่อนใช้งาน เพื่อจะช่วยให้กระเป๋าหนังของคุณทนต่อสภาพอากาศ แดด และริ้วรอยมากขึ้น
2. การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในถุงผ้าบาง ๆ เพื่อให้หนังกระเป๋าของเราสัมผัสกับอากาศ และออกซิเจนบ้าง ไม่ควรเก็บไว้ในถุงพลาสติก หรือที่อับ เพราะจะยิ่งทำให้กระเป๋าเกิดความชื้น และทำให้หนังเสื่อมสภาพเร็วได้
3. ไม่ควรเก็บรักษากระเป๋าไว้นาน ๆ ควรนำออกมาใช้บ้าง ให้หนังกระเป๋าได้สัมผัสกับอากาศ และออกซิเจนบ้าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของกระเป๋า
4. ไม่ควรเก็บรักษาไว้ใกล้สารเคมีอันตราย โดยเฉพาะกระเป๋าหนังแท้ที่มีความไวต่อสารเคมี จะทำให้สภาพผิวหนังของกระเป๋าเสื่อมสภาพลงได้โดยง่าย แม้ได้สัมผัสเพียงสารที่ระเหยจากตัวสารเคมีนั้นก็ตาม
5. การเก็บรักษากระเป๋าให้อยู่ทรง ควรจัดหากระดาษ หรือแผ่นพลาสติกยัดเข้ากระเป๋าเพื่อให้กระเป๋าอยู่ทรง

     ทั้งหมดนี้เป็นเกร็ดเล็กน้อยที่ แอบโซลูท คอร์ป นำมาฝากให้กับทุกท่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตกระเป๋าหนัง และผู้ที่สนใจจะจำหน่าย และผลิตกระเป๋าแบรนด์ตัวเอง การเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าที่ครบวงจร มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน เป็นเหมือนการมีผู้ช่วยที่ดีที่จะคอยซัพพอร์ตให้ธุรกิจของเราเติบโตไปได้อย่างราบรื่น นอกจากช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากแล้ว ยังช่วยเราลดต้นทุนการผลิตไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว

     ที่ บริษัท แอบโซลูท คอร์ป จำกัด เราคือโรงงานผลิตกระเป๋าชั้นนำสำหรับองค์กร และองค์กรสู่ลูกค้า รับทำกระเป๋าในราคาที่ยุติธรรม และการบริการรับผลิตกระเป๋าที่ประทับใจที่สุดด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ยินดีให้คำปรึกษางานด้านการผลิตกระเป๋าที่ครอบคลุมตั้งแต่ การนำเข้าวัสดุ บริหารสายการผลิต รวมถึงบริหารจัดการช่องทางการจำหน่ายต่าง ๆ ด้วยประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน และมีผลงานการผลิตกระเป๋าแบบต่าง ๆ มากมาย ดูแลตั้งแต่งานผลิตกระเป๋าพร้อมส่ง กระเป๋าพรีเมี่ยม เพื่อเป็นของชำร่วยทางการตลาด งานผลิตกระเป๋าเดินทาง งานผลิตกระเป๋าผ้า งานผลิตกระเป๋าหนัง รวมทั้งให้บริการงานผลิตกระเป๋าแบรนด์ตัวเอง บริการอย่างครบวงจร สามารถช่วยออกแบบได้ แนะนำวัสดุที่เหมาะกับแบบกระเป๋า ควบคุมคุณภาพงานกระเป๋าได้ และราคาสมเหตุสมผล

ติดต่อรับบริการผลิตกระเป๋าแบบครบวงจรและติดตามข่าวสารพร้อมโปรโมชั่นพิเศษได้ที่

โทร. 02-862-5130
Email : contact@absolute-corp.com